ภาพปราสาทภูมิโปน ที่มา : https://kku.world/fc7vi |
ยินดีต้อนรับทุกคนสู่โลกแห่งความรู้อันน่าอัศจรรย์Treasure Of Southeast Asia โดยในบล็อกนี้จะกล่าวถึงปราสาทภูมิโปน ซึ่งเป็นอารยธรรมสมัยเขมรโบราณ หวังว่าทุกคนจะสนุกและได้รับความรู้ที่มากมายจากบล็อกแห่งนี้
บทความนี้จะนำพาทุกคนมารู้จักกับอารยธรรมเขมรโบราณอย่างปราสาทภูมิโปน ซึ่งปราสาทภูมิโปนนั้นมีสถานที่ตั้งอยู่ที่บ้านภูมิโปน ตำบลดม อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ สันนิษฐานอายุการสร้างปราสาทนี้ราวพุทธศตวรรษที่ 12-13 นับว่าเป็นปราสาทที่ได้รับอิทธิพลอารยธรรมเขมรโบราณที่มีความเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว และราวพุทธศตวรรษที่ 12 - 13 ช่วงเวลาดังกล่าวตรงกับรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 แห่งอาณาจักรเขมรโบราณ บริเวณชุมชนบ้านภูมิโปนได้ถูกพัฒนาเป็นชุมชนขนาดใหญ่ โดยมีปราสาทภูมิโปนเป็นศูนย์กลางและศาสนสถานในศาสนาฮินดูอีกด้วย
ภูมิโปนคืออะไร ?
หลายท่านอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับคำนี้ โดยปราสาทภูมิโปนถือว่าเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณหรือชุมชนโบราณที่มีระบบการปกครองแบบเมือง สังเกตได้จากบริเวณรอบ ๆ ปราสาทพบคูกำแพงเมือง เขื่อนดินโบราณ และสระน้ำ โดยเฉพาะน้ำเป็นระบบชลประทานถูกออกแบบมา มีจำนวน 5 แห่ง ได้แก่ สระลำเจียก สระตา สระกนาล สระตราว และสระปรือ ปัจจุบันพื้นที่ชุมชนโบราณเป็นที่ตั้งของชุมชนบ้านภูมิโปน ถ้าถามถึงความหมายและที่มาของชื่อปราสาทภูมิโปน ฉันก็จะอธิบายได้ว่าสำหรับคำว่า "ภูมิโปน" เชื่อว่าน่าจะมาจากภาษาเขมร "ภูมิ" มีความหมายคือ แผ่นดิน, สถานที่หรือหมู่บ้าน และ "ปูน" ซึ่งออกเสียงว่า "โปน" แปลว่า "หลบซ่อน" ถ้ารวมคำว่า "ภูมิโปน" จึงมีความหมายว่า "สถานที่หลบซ่อน"
จากความหมายของคำว่า "ภูมิโปน" จึงไปสอดคล้องกับตำนานท้องถิ่น ที่กล่าวไว้ว่า มีกษัตริย์ขอมองค์หนึ่งได้สร้างเมืองลับไว้กลางป่าใหญ่ชื่อว่า "ปราสาทภูมิโปน" ต่อมาเกิดเหตุการณ์เมืองหลวงมีความไม่สงบสุขเนื่องจากมีข้าศึกศัตรูเข้ามาประชิดเมือง กษัตริย์เขมรองค์นั้นจึงส่งพระราชธิดาของตนพร้อมกับไพร่พลจำนวนหนึ่งไปหลบซ่อนลี้ภัยสงครามที่ภูมิโปน ตามตำนานได้กล่าวถึงพระราชธิดาองค์นั้นมีพระนามว่า "พระนางศรีจันทร์" ด้วยความงามของนางที่เลื่องลือไปทั่ว จึงเป็นที่หมายปองของพระราชาเมืองต่าง ๆ ที่ต้องการพระนางมาเป็นพระชายา จึงเกิดศึกชิงนางขึ้น เกิดเป็นโศกนาฏกรรมและทำให้บุรุษล้มตายเพราะนางมาก สุดท้ายพระนางศรีจันทร์ได้ตกไปเป็นมเหสีของกษัตริย์แห่งนครนายพราน (วยาธปุระ เมืองหลวงสมัยอาณาจักรฟูนันในอดีต) ก่อนนางจะจากไปได้ขอไปอาบน้ำที่สระลำเจียก และปลูกต้นลำเจียกไว้กอหนึ่ง พร้อมกับอธิษฐานว่า ถ้าพระนางยังไม่กลับมาที่ภูมิโปน ขอให้ต้นลำเจียกอย่าได้ออกดอกอีกเลย ปัจจุบันสระลำเจียกยังคงมีต้นลำเจียกกอใหญ่หลายต้นและยังไม่มีดอกมาจนถึงทุกวันนี้
สระลำเจียก ที่มา : https://kku.world/9743g |
โบราณสถานในปราสาทภูมิโปน
ปราสาทภูมิโปนประกอบด้วยโบราณสถาน 4 หลัง คือ ปราสาทก่ออิฐ 3 หลัง และศิลาแลง 1 หลัง มีอายุการก่อสร้างอย่างน้อย 2 สมัย ปราสาทก่ออิฐหลังใหญ่และหลังทางทิศเหนือสุด นับเป็นปราสาทแบบศิลปะเขมรทีมีอายุเก่าที่สุดในประเทศไทยคือราวพุทธศตวรรษที 13 ส่วนปราสาทอิฐหลังเล็กที่ตั้งตรงกลางและปราสาททีมีฐานศิลาแลงด้านทิศใต้นั้น สร้างขึ้นภายในสมัยหลัง
ปราสาทภูมิโปน คงจะสร้างขึ้น เป็นศาสนสถาน ในศาสนาฮินดู ไศวนิกาย เช่นเดียวกับศาสนสถานอื่นๆ ในรุ่นเดียวกัน แม้จะไม่พบ รูปเคารพ ซึ่งควรจะเป็นศิวลึงค์ อยู่ภายในองค์ปรางค์ แต่ที่ปรางค์องค์ใหญ่ยังมี ท่อโสมสูตร คือ ท่อน้ำมนต์ ที่ต่อออกมา จากแท่นฐานรูปเคารพ ในห้องกลาง ติดอยู่ที่ผนังในระดับพื้นห้อง
แผนผังปราสาทภูมิโปน ที่มา : https://kku.world/gy9bd |
ปราสาทหินหลังที่ 1 หรือปรางค์ประธาน เป็นปราสาทหลังใหญ่ ก่อด้วยอิฐไม่สอปูน แผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสไม่ย่อมุม มีบันได และประตูทางเข้าด้านทิศตะวันออก อีกสามด้านเป็นประตูหลอก เสาประดับ กรอบประตูและทับหลังทำด้วยหินทราย ใต้หน้าบันเหนือทับหลังขึ้นไปเป็นลายรูปใบไม้ม้วน รูปแบบและเทคนิคการก่อสร้าง เทียบได้กับปราสาทขอมสมัยก่อนพระนคร ร่วมสมัยกับปราสาทหลังที่ 1 ได้พบจารึกเป็นภาษาสันสกฤตด้วยอักษรปัลลวะ ซึ่งเคยใช้เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่12-13 ซึ่งสอดคล้องกับอายุของรูปแบบศิลปะของปราสาท นับเป็นปราสาทแบบศิลปะเขมรที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
ปราสาทหินหลังที่ 1ที่มา : https://kku.world/cq255 |
ปราสาทหินหลังที่ 2 อยู่ต่อจากปราสาทหินหลังแรกมาทางใต้ ปัจจุบันเหลือเพียงฐานและกรอบประตูหินทราย
ปราสาทหินหลังที่ 2 ที่มา : https://kku.world/jzfai |
ปราสาทอิฐหลังที่ 3 อยู่ทางด้านเหนือสุด มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมไม่ย่อมุม เหลือเพียงฐาน กรอบประตูทางเข้าและผนังบางส่วน ทับหลังและเสาประดับกรอบประตูทำด้วยหินทรายสลักลวดลาย ลักษณะเทียบได้กับศิลปะขอมสมัยก่อนเมืองพระนคร แบบไพรเกมร มีอายุอยู่ประมาณพุทธศตวรรษที่12-13
ปราสาทอิฐหลังที่ 3 ที่มา : https://kku.world/tknny |
ปราสาทหินหลังที่ 4 อยู่ต่อจากปราสาทประธานมาทางใต้ ปัจจุบันเหลือเพียงฐานศิลาแลงเท่านั้น ปราสาทหลังนี้และปราสาทหลังที่สองคงสร้างในสมัยต่อมาซึ่งไม่อาจกำหนดอายุได้ชัดเจน จากส่วนประกอบทางสถาปัตยกรรม เช่น เสาประดับ กรอบประตูที่เหลืออยู่เป็นเสาแปดเหลี่ยมอันวิวัฒนาการมาจากเสากลมในสมัยก่อนเมืองนคร ตลอดจนการก่อฐานปราสาทด้วยศิลาแลง ทำให้สามารถกำหนดได้ว่า ปราสาททั้งสองหลังนี้คงจะสร้างขึ้นหลังจากปราสาทประธาน และปราสาทหลังแรก
ปราสาทหินหลังที่ 4 ที่มา : https://kku.world/nmor9 |
อ้างอิงจาก
กรมศิลปากร. ประวัติศาสตร์เมืองสุรินทร์. กรุงเทพฯ: อัมรินทร์พริ้นติ้งและพับลิชชิ่ง, 2550.
สารบบการท่องเที่ยวประเทศไทย. ปราสาทภูมิโปน. สืบค้นเมื่อ 20 มกราคม2655,
จาก https://thailandtourismdirectory.go.th/th/attraction/1185.
มิวเซียมไทยแลนด์. ปราสาทภูมิโปน. สืบค้นเมื่อ 20 มกราคม 2565,
จาก https://www.museumthailand.com/th/2164/storytelling.
Jasminta. ตำนาน “ปราสาทภูมิโปน” ปราสาทขอมโบราณเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย.
สืบค้นเมื่อ 21 มกราคม 2565, จาก https://travel.mthai.com/uncategorized/158876.html
No comments:
Post a Comment